คิดถึงคุณตา : (ภาค 35)

คิดถึงคุณตา : (ภาค 35)

Mr.How220762

วันสำคัญในอดีตอีกวันหนึ่งที่ผมยังคงจำได้ไม่ลืม และถ้าหวนคิดถึงเมื่อใด น้ำตาจะไหลออกมาเลยครับ นั่นก็คือ วันที่ผมจะต้องจากเมืองไทยไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน โดยคุณตาท่านบอกและกำชับกับคุณพ่อและคุณแม่ของผมว่าให้ช่วยแวะไปรับท่านด้วย เพราะท่านจะเดินทางไปส่งผมไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศด้วย

และในเช้ามืดวันดังกล่าว คุณพ่อคุณแม่และผมจำได้เป็นอย่างดี และพร้อมใจกันเดินทางไปรับคุณตาที่บ้านของคุณตา และมุ่งหน้าต่อไปยังสนามบินดอนเมือง (ในตอนนั้น) เพื่อเป็นเพื่อน ให้กำลังใจ และส่งผมไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

ในวันนั้น ในความรู้สึกลึกๆ ของผมนั้นมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป สุขที่มีคุณตาคุณพ่อคุณแม่มาร่วมส่งเราไปศึกษาต่อ และที่ทุกข์คือ เราไม่เคยจากบ้านไปเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ และจากไปไกลถึงออสเตรเลีย ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลกันไป ตอนแรกที่อยู่กับคุณตาคุณพ่อคุณแม่ยังยิ้มๆ อยู่ แต่พอเดินทางเข้าไปสู่ด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่อง ตรงนี้บีบหัวใจเป็นที่สุด และเราถามกับตัวเองว่า มันจริงๆ ใช่ไหม

เราจะต้องเดินทางไปแล้วใช่ไหม เราจะทำอย่างใด ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จะกิน จะนอน จะอยู่อย่างใด และที่สำคัญ ทุกครั้งที่จะพูดหรือสื่อสารต้องหยิบหนังสือพจนานุกรม หรือ ดิกชันนารี ขึ้นมาเปิดและช่วยแปลเสมอ นับว่าเป็นความท้าทายในชีวิตครั้งใหญ่เลยของผมที่ต้องเดินทางไปผจญกับโลกกว้างด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และครั้งนี้เราจะต้องใช้ชีวิตทุกอย่างเองทั้งหมด เราจะไม่มีคุณตาคุณพ่อคุณแม่และเครือญาติคอยช่วยเหลือเราแล้ว นับเป็นช่วงเวลาแห่งชีวิต (ที่คิดแล้วแทบบ้า) ที่มีทั้งสุข ทุกข์ บวกกับดีใจ และเสียใจ สลับกันไปเลยจริงๆ ครับ

ทั้งนี้ ในวันที่เราเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย คุณพ่อคุณแม่และผมกราบขออนุญาตเดินทางมาเยี่ยมคุณตาที่บ้านของคุณตา คุณตาท่านดีใจ และมีความสุขที่เห็นผมเดินทางมาเยี่ยมท่าน นับเป็นบันทึกความทรงจำในตอนวัยรุ่นที่ผมยังคงจำแม่นกว่าในสมัยวัยเยาว์ที่เอาแต่ซน และมีเกเรไปบ้างตามสไตล์เด็กซน

และอีกหนึ่งความประทับใจที่มีโอกาสได้ทำในช่วงที่ผ่านมา นั่นก็คือ ความพยายามศึกษาต่อจนจบหลักสูตรระดับปริญญาโท แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่งสำหรับผม ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย แต่สุดท้ายเมื่อจบมาแล้วเรารู้สึกประทับใจเป็นที่สุด และย้อนมองกลับไปตอนวัยเยาว์ที่เราเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียน (แอบเกเรอยู่บ้าง) และเรียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในวันนี้เราทำสำเร็จแล้ว และเราดีใจที่เราสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ ผมกราบนัดหมายกับคุณพ่อคุณแม่และเดินทางมาหาคุณตาที่บ้าน พร้อมกับกราบเชิญคุณตาและคุณน้าๆ มาร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกร่วมกัน นับเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ยังคงเก็บไว้ในบันทึกแห่งความทรงจำได้เป็นอย่างดี และไม่มีวันจืดจางลงไปเลยแม้แต่น้อย

เกร็ดประวัติเหล่านี้ เป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ และเป็นภาพแห่งความประทับใจในช่วงชีวิตหนึ่งของผมที่ยังคงรัก เคารพ และคิดถึงคุณตาของผมเสมอมานะครับครับ

ถ้าเราลองมานั่งเปรียบเทียบภาพในวันนั้นที่มีคุณตา กับในวันนี้ที่ไม่มีคุณตาแล้ว กราบเรียนตามตรงว่ามันช่างเป็นภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณตาสอนให้เราเป็นคนดี สอนให้เรารู้จักกตัญญูรู้คุณ คุณตาไม่เคยสอนผมเป็นคำพูด แต่คุณตามักจะสอนด้วยการกระทำของคุณตา คุณตาเป็นแบบอย่างให้ผมได้เดินรอยตามคุณตาครับ คุณตาสู้ชีวิต คุณตาขยันขันแข็ง คุณตาเหนื่อย และคุณตาประสบความสำเร็จในอาชีพการค้าขายที่คุณตารัก คุณตาเป็นที่รักของเพื่อนๆ ของคุณตา และลูก-หลาน คุณตาเป็นต้นแบบให้ผมได้มีโอกาสเดินตามรอยของคุณตาแม้ว่าจะได้ไม่เต็มร้อย แต่ผมจะพยายามทำให้ได้มากที่สุดนะครับคุณตาครับ