คิดถึงคุณตา : (ภาค 13)

ในสมัยเด็กๆ นั้น เราจะนั่งนับวันกันเลยว่า เมื่อใดจะถึงวันที่จะเดินทางไปกราบไหว้บรรพบุรุษ หรือ เชงเม้ง เนื่องจากว่า ในความรู้สึกในวัยซน เรามีความสุขมากๆ ที่ได้ร่วมเดินทางไปกับคุณตา คุณพ่อ คุณแม่ คุณน้าๆ และเพื่อนคุณตา รวมถึงเพื่อนบ้านของคุณตา ไปวิ่งเล่นอยู่บนรถบัสคันใหญ่ๆ ที่คุณตาว่าจ้างให้ช่วยพาหมู่คณะเดินทางไปที่สุสานฯ ในจังหวัดสระบุรี

และหลังจากกราบไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้วมักจะมีดีลเดินทางต่อไปเที่ยวน้ำตกในบริเวณใกล้เคียง นับว่าเป็นความสุขเล็กๆ ที่ยังคงจดจำได้เสมอมา และจนถึงวันนี้ยังคงหวนรำลึกถึงบรรยากาศในวัยเยาว์ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเลือนราง หรือตกหล่นไปบ้าง แต่ยังพอจำภาพบรรยากาศเก่าๆ ในบางช่วงบางตอนได้ นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอีกช่วงหนึ่งของชีวิตในวัยเด็กเลยทีเดียว

บรรยากาศในวันที่ไปเชงเม้งนั้นมีทั้งสนุก เหนื่อย อ่อนเพลีย และนอนหลับ ครบเครื่องในวันเดียวเลยครับ หลังจากที่วิ่งซนอยู่ภายในสุสานฯ ตั้งแต่ไปถึงในช่วงเช้า เนื่องจากสุสานฯ ที่เราร่วมเดินทางไปกราบไหว้บรรพบุรุษนั้นมีสถานที่ให้เราวิ่งเล่นมากมาย หวนนั่งนึกถึงภาพในอดีตที่ทยอยกลับมาให้เราทวนความจำ เราหนีคุณแม่ขึ้นไปเล่นเครื่องเล่นของทางสุสานฯ ไปวิ่งดูสวนสัตว์ขนาดเล็กที่ด้านบน จำได้ว่าต้องวิ่ง หรือค่อยๆ เดินขึ้นบันไดขึ้นไปหลายขั้น เรายังจำรสชาติที่อร่อยๆ ของข้าวต้มร้อนๆ ทานกับผักดอง กาน่าฉ่าย และอาหารเจอีกหลากหลายชนิด ช่างเป็นรสชาติที่อร่อยลงตัวจริงๆ แถมเสริมความมันด้วยถั่วลิสงทอด นึกถึงภาพดังกล่าวแล้วเกิดอารมณ์ความหิวขึ้นมาในทันที นับเป็นเมนูแรกในมื้อเช้าของวันนั้น

หลังจากที่ได้ทานอาหารเช้าของทางสุสานฯ แล้ว คุณตา อากู๋สี่ อาเหล่าแปะ หรือ “อาเป่งแปะ” อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาชั่งเจ็ก” อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาอุ๊ยเจ็ก” อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาไต่ช้งเจ็ก” อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาสี่อ๋าเจ็ก” คุณพ่อ คุณแม่ คุณน้าๆ และหมู่คณะต่างแยกย้ายและช่วยกันเดินทางไปกราบไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงผมเองจะตามคุณพ่อและคุณแม่ไปกราบไหว้พี่ชายของคุณตา และเมื่อเสร็จจากการกราบไหว้แล้วจะกลับมาเจอกันที่จุดแรกซึ่งเป็นจุดนัดพบหลัก และเตรียมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน

เมนูมื้อกลางวันนั้นเป็นเมนูอาหารชอ หรืออาหารปกติทั่วไปที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมในแต่ละเมนู โดย อาเหล่าแปะ หรือ “อาเป่งแปะ” จะช่วยดูเรื่องความร้อนของไฟและเตาไฟ (คุณแม่บอกว่าอาเหล่าแปะ หรือ “อาเป่งแปะ” ท่านทำปลาช่อนต้มเกี๊ยมฉ่าย (ในสไตล์ของอาเหล่าแปะ คือ ในน้ำแกงจะใส่กะทิ ผักดอง มะเขือเทศ พริกเหลือง) อร่อยสุดๆ เลยครับ หรือคุณแม่มักเรียกว่า “โล่ยฮื้อซึง”) ขณะที่พ่อครัวใหญ่นั้น เป็น อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาชั่งเจ็ก” และ อาเหล่าเจ็ก หรือ “อาไต่ช้งเจ็ก” รับหน้าที่ช่วยจัดทำอาหารในมื้อดังกล่าวให้กับแขกที่ร่วมเดินทางได้รับประทานกันพร้อมหน้า และเป็นเมนูมื้อกลางวันที่อร่อยสุดๆ เลยครับ และแน่นอนว่าเมนูหลักที่ขาดไม่ได้เลยในงานนี้ คือ เป็ดพะโล้ หมูต้มพะโล้ และไก่ต้มของคุณตาครับ รับรองว่าอร่อยไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอนเลยครับผม