เบทาโกร จับมือ สถาบันอิสรา เพิ่มช่องทางรับฟังเสียงสะท้อนจากแรงงาน ชูโครงการ "Your Voice, We Care" ยกระดับกระบวนการจัดการด้านแรงงานอย่างยั่งยืน

เบทาโกร จับมือ สถาบันอิสรา เพิ่มช่องทางรับฟังเสียงสะท้อนจากแรงงาน ชูโครงการ "Your Voice, We Care" ยกระดับกระบวนการจัดการด้านแรงงานอย่างยั่งยืน

Beta010860

"Your Voice, We Care" เป็นโครงการสำคัญของเครือเบทาโกรซึ่งประสานความร่วมมือกับสถาบันอิสรา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและแก้ปัญหาด้านแรงงานในระยะยาว โดยนำเสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงานต่างด้าว มาเป็นข้อมูลสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน และเป็นโครงการนำร่องเพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านแรงงานของเครือเบทาโกรให้ก้าวไปอีกขั้น นอกเหนือจาก “มาตรฐานแรงงานเบทาโกร” หรือ BLS (BETAGRO Labor Standard) ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายแรงงานไทย และกฎหมายการจัดการด้านแรงงานระหว่างประเทศ ที่กำหนดใช้ทุกบริษัทในเครือและขยายไปสู่ผู้ผลิตในซัพพลายเชน ตลอดจน Your Voice, We Care ยังสอดคล้องวัตถุประสงค์ของสถาบันอิสรา ในการยกระดับสภาพแวดล้อมการทำงานและสิทธิของแรงงานในประเทศไทยผ่านการสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจ

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการ สถาบันอิสราจะใช้โมเดลการทำงานแบบการเฝ้าสังเกตการณ์แรงงานอย่างครอบคลุม (Inclusive Labour Monitoring) เป็นแนวทางในการขับเคลื่อน โดยใช้เสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงานเป็นหลัก เพื่อความโปร่งใสในกระบวนการบริหารด้านแรงงานตลอดทั้งซัพพลายเชน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ผลิตในซัพพลายเชน โดยมีรูปแบบการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานในสถานประกอบการอย่างต่อเนื่องเพื่อพร้อมรับปัจจัยเสี่ยงด้านแรงงาน ผ่านเทคโนโลยีและการทำงานร่วมกันกับเบทาโกร แทนวิธีการตรวจสอบที่มีการระบุเวลาการเข้าไปตรวจ สำหรับจุดมุ่งหมายของโครงการนำร่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งการจัดการด้านแรงงานในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการทั้งซัพพลายเชนของเครือเบทาโกร ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งภาคแรงงานและภาคธุรกิจ

Beta010860 2

นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังจะช่วยให้พนักงานของเครือเบทาโกรและพนักงานของผู้ผลิตในซัพพลายเชน สามารถเข้าถึงช่องทางการรับฟังเสียงจากแรงงานของสถาบันอิสราได้อย่างอิสระ ได้แก่ สายด่วน 24 ชั่วโมงที่รองรับการใช้งานหลายภาษา แอพพลิเคชั่น Golden Dreams ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งพัฒนามาเพื่อแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะ รวมถึงช่องทางการรับส่งข้อความส่วนตัวอื่นๆ เช่น LINE Viber และ Facebook Messenger เป็นต้น ช่องทางเหล่านี้จะช่วยให้แรงงานต่างด้าวสามารถส่งคำถามและข้อเสนอแนะต่างๆ โดยตรงถึงสถาบันอิสรา ซึ่งทำงานร่วมกับเครือเบทาโกรและผู้ผลิตในซัพพลายเชน เพื่อให้อุตสาหกรรมไก่ไทยมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือเบทาโกร กล่าวว่า “เครือเบทาโกรให้ความสำคัญกับการส่งเสริม “คุณภาพชีวิต” ที่ดี ของพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ตลอดจนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพนักงานของเราถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เราจึงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการบริหารจัดการและมาตรฐานแรงงานทั่วทั้งซัพพลายเชนให้ดียิ่งขึ้น การร่วมกับสถาบันอิสรา จัดทำโครงการ Your Voice, We Care จะเป็นการเพิ่มช่องทางการรับฟังเสียงสะท้อนและความคิดเห็นจากแรงงานต่างด้าว นำไปสู่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานเบทาโกร ซึ่งระบุให้มีระบบรับฟังความคิดเห็น รับเรื่องร้องทุกข์และแก้ไขปัญหา รวมทั้งมีระบบการตรวจสอบที่โปร่งใสจากภายนอก โดยเราจะมีการทบทวนและพัฒนาระบบการจัดการอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันมาตรฐานการจัดการแรงงานในอุตสาหกรรมไก่ของไทยให้ดียิ่งขึ้น และได้รับการยอมรับในระดับสากล” นายวนัสกล่าว

นายมาร์ค เทย์เลอร์ Director of Strategy & Global Partnerships สถาบันอิสรา กล่าวว่า "ทีมงานของสถาบันอิสราทำงานอย่างใกล้ชิดกับทั้งภาคธุรกิจของไทยและแบรนด์ระดับโลก ตลอดจนผู้ค้าปลีก ผู้นำเข้า ฯลฯ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของซัพพลายเชนและยกระดับสภาพการทำงานของแรงงาน”

“สถาบันอิสราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้สานต่อความร่วมมือกับเครือเบทาโกรต่อไป และนำโมเดลการทำงานแบบการเฝ้าสังเกตการณ์แรงงานอย่างครอบคลุม (Inclusive Labour Monitoring) ของสถาบันอิสราไปใช้ทั่วทั้ง       ซัพพลายเชนของเบทาโกร การเฝ้าสังเกตการณ์แรงงานอย่างครอบคลุม ทำให้แรงงานสามารถสอบถามหรือรายงานประเด็นปัญหาต่างๆ อย่างเป็นความลับกับสถาบันอิสราได้ ซึ่งสถาบันอิสราจะทำงานร่วมกับเบทาโกรเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โมเดลการทำงานดังกล่าวจะเริ่มใช้กับซัพพลายเชนที่ส่งวัตถุดิบให้กับเบทาโกรโดยตรง และจะมีการนำไปใช้กับซัพพลายเชนระดับถัดไป ซึ่งรวมไปถึงฟาร์มแบบมีสัญญา และฟาร์ม คู่ค้าอื่นๆ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มธุรกิจที่ทำงานในเชิงรุกอย่างเครือเบทาโกรและเล็งเห็นว่าความร่วมมือนี้ไม่เพียงเป็นโอกาสที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พนักงานจำนวนมากในองค์กรธุรกิจชั้นนำด้านการเกษตรและอาหารของประเทศ แต่ยังจะสร้างความตระหนักและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมในวงกว้างขึ้นอีกด้วย" นายเทย์เลอร์ กล่าว

Beta010860 3