โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์โดยยึดหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง

สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรผักไห่ จำกัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินโครงการ “ส่งเสริมการปลูกข้าวอินทรีย์โดยยึดหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ประกอบด้วยกิจกรรมการจัดทำแปลงสาธิตปลูกข้าวอินทรีย์ ในพื้นที่ 7 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับความรู้เกี่ยวกับการผลิตข้าวปลอดภัย ด้วยวิธีการเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากที่ว่าการอำเภอผักไห่ สำนักงานเกษตรอำเภอผักไห่ เทศบาลตำบลชะโด สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และศูนย์พันธุ์วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ

และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอผักไห่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมลงแปลงสาธิต “การปลูกข้าวหอมชลสิทธ์ปลอดภัย ภายใต้กระบวนการอินทรีย์” นาปรังรอบ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 21 กันยายน 2559 โดยมีคณะผู้บริหารสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม นำทีมโดย นางพงศ์พงา เนตรหาญ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการ พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าโครงการฯ และบุคลากรสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม นายเกรียงศักดิ์ พิมพันธ์ดี นายกเทศบาลตำบลลาดชะโด นางสาวศิริพร วัฒนศรีรังกูล ผู้อำนวยการกลุ่มคลัสเตอร์ข้าว สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. นายไพศาล สังข์มงคล เกษตรจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา นางสาววิไลลักษณ์ นาครุ่งเรือง สหกรณ์การเกษตรผักไห่ จำกัด นายนภดล วิทยาภรณ์ เกษตรอำเภอ และคณะครูและนักเรียน โรงเรียนวัดนาคู เข้าร่วมกิจกรรม การลงแปลงสาธิต “ปลูกข้าวหอมชลสิทธ์ปลอดภัย ภายใต้กระบวนการอินทรีย์” นาปรังรอบ 2 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 21 กันยายน 2559 ในเขตเทศบาลตำบลลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สำหรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญของสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และการจัดทำโครงการการส่งเสริมการปลูกข้าวเกษตรอินทรีย์โดยยึดหลักทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำการปลูกข้าวแบบอินทรีย์ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องการผลิตข้าว เป็นการช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถลดต้นทุนการผลิต ได้ข้าวที่มีคุณภาพและสามารถจำหน่ายได้ราคา ส่งผลให้เกิดการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และยังสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

กราบขอบพระคุณ และกราบขออนุญาตแชร์ภาพข่าวจาก "คุณแต๋ม" และทาง มก. เป็นที่สุดน้าครับผม อิอิ เย้ๆๆๆๆๆ