ประสบการณ์หลอนๆ ของนักสะสมพระ (ผมเองจร้า) เช่าได้พระปลอม พระไม่แท้ พระไม่สากล ในราคาสุดแพง กับ เซียนพระ (ที่เราไปเช่าหา) แบบสายตรง (จริงหรือ)?

ประสบการณ์หลอนๆ ของนักสะสมพระ (ผมเองจร้า) เช่าได้พระปลอม พระไม่แท้ พระไม่สากล ในราคาสุดแพง กับ เซียนพระ (ที่เราไปเช่าหา) แบบสายตรง (จริงหรือ)?

* ถอดบทเรียนเจ็บๆ ทั้งถูกหัก เปอร์เซ็นต์เพียบ - หลอกด่าบุพการี - แถมบางรายไม่รับคืน!

357690427 747933397335091 2726480834774030988 n

น่าสนใจ :

อยากให้ถอดบทเรียน ระหว่างวงการทอง และวงการพระเครื่องเช่นกันนะจร้า (มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับแหล่งข่าวที่เคารพรักท่านหนึ่ง) โดยเฉพาะกับเซียนพระบางท่านที่เราเคยเจอประสบการณ์สยองด้วยนะจร้า และที่ย่ำแย่ ขายคืนก็ไม่ได้ ไม่รับคืน ไม่สนใจ ไม่ให้เครดิตเราเลย

เป็นการสรุปประเด็นที่คุยกัน และเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ตัวเอง คือ ผมได้พบเจอมากับตัวเอง เกี่ยวกับการเช่าหา และได้พระปลอม สูญเสียเงิน และโอกาสมากมายในช่วงที่ผ่านมา มาแชร์ให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง :

เริ่มต้นกัน คือ เริ่มตั้งแต่ตอนแรกที่เราจะซื้อ (เช่า) เราก็คุยกัน เชื่อใจกัน ตอนจะขายคืน เงียบสนิท มองเราเป็นอากาศ ไม่มีบัตรรับประกัน มั่นใจในศักยภาพของเซียนพระท่านนั้นๆ อย่างเดียว

357574390 747933387335092 1122577605394913020 n

สุดท้ายเราก็ตกที่นั่งลำบาก ต้องแบกเผือกร้อนเอาไว้เอง จะไปขายเซียนคนอื่นก็ขายไม่ได้ บางท่านก็บอกว่า ไม่เล่นรุ่นนี้ บางท่านก็ดูแล้วเฉยๆ ขณะที่ท่านที่เราซื้อมาก็เงียบ ไม่ตอบอะไรเลย ตอนซื้อ (เช่า) ก็คุยผ่านช่องทางเดียวกันนี่แหละ สอบถามกันเกี่ยวกับในอนาคต ถ้าต้องการขายคืน จะหักกี่เปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้าย เงียบสนิทครับ เฮ้อ จนถึงทุกวันนี้

เงินไม่ใช่น้อยๆ เหมือนกัน ยิ่งในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ถ้าเป็นทองคำ ยังสามารถนำไปขายที่ใดก็ได้ ขอให้เป็นทองคำแท้ แต่พอได้พระไม่แท้ ไม่สากล หรือไม่แท้ทุกสนาม เราก็ไม่รู้จะทำอย่างใด นอกจากเป็นนายแบกอย่างเดียว แบกพระปลอมไว้บูชา เฮ้อ

เรามักจะได้ยินวลีเด็ดเสมอๆ ว่า คิดจะเป็นเซียนพระ ต้องกลืนเลือด เวลาเช่าได้พระปลอม แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่ใช่เซียนพระ ผมเป็นแค่นักสะสมพระ นักนิยมและสนใจพระเครื่องเท่านั้น ผมจึงไม่ใช่เซียนพระ และการนำพระปลอม หรือพระไม่ได้มาตรฐานมาแบ่งปัน หรือให้ผมเช่าหานั้น ผมจึงไม่มีความสามารถที่เพียงพอ

ผมดูไม่เป็น

ดังนั้น ผมจึงต้องยืมความสามารถ ยืมความรู้ ยืมประสบการณ์ของเซียนพระ ยืมความชำนาญของเซียนพระท่านนั้นๆ มาใช้ในการเช่าหาพระเครื่องและวัตถุมงคล และสิ่งที่ผมต้องแลกกับเรื่องนี้เพิ่มขึ้น คือ เรื่องราคาเช่าหาที่แพงกว่าปกติ เพราะผมไม่มีประสบการณ์ หรือมีความสามารถที่เพียงพอ เลยต้องยืมความชำนาญของเซียนพระที่ผมเคยไปดีลมาบางท่านมาใช้ แลกกับการเช่าและแบ่งปันพระเครื่องจากเซียนพระท่านนั้นๆ ในราคาที่สูงและไม่ถูกเลยทีเดียว

ต้องทำใจรับให้ได้ :

แต่ที่เราพอรับได้ คือ ถ้าเราแบ่งปัน หรือขายคืน ตามหลักสากลคือหัก 20-25 เปอร์เซ็นต์ (ตามแต่ตกลง) หรือบางท่านอาจจะไม่รับซื้อคืน โดยเราอาจจะมีการพูดคุยกันแล้ว

แต่ขอให้ขายของแท้ให้เรา เราก็พึงพอใจแล้วน้าจร้า ถ้าเป็นเรื่องนี้

ในขณะที่เซียนพระบางท่านที่เราเคยพูดคุยกันแล้ว แต่ไม่รับคืน หรือหักมากกว่า 20-25 เปอร์เซ็นต์ก็มี เพราะท่านอาจจะบอกเสมอๆ ว่า ขึ้นอยู่ที่สถานการณ์ และราคาพระเครื่องในยุคนั้นๆ (หรือตอนนั้นๆ) ด้วยนะจร้า

ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เราเองได้รับมาแล้ว มันมีหลากหลายปัจจัย และเหตุผลจริงๆ จร้า :

จะว่าไปแล้ว เราได้พระแท้ แต่เช่าแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ผมพอรับได้ และรับมาแล้ว เป็นราคาเช่าหาที่เราพึงพอใจในขณะนั้นๆ เพราะเราอยากได้ เราก็ยินดีสู้ราคา

เป็นเรื่องปกติ อะไรที่เราอยากได้ เราก็ต้องสู้ราคาไม่ถอยอยู่แล้ว แต่ถ้าความคิดตรงนี้ถูกอ่านออก เราก็อาจจะถูกขายแพงหน่อยน้าจร้า อิอิ

วกกลับมาพูดถึงพระปลอมต่อ :

แต่ที่น่ากลัวสุดๆ ก็คือ การเช่าได้พระปลอม พระไม่แท้ และไม่เป็นที่เล่นหาในหลักสากล และที่ย่ำแย่สุดๆ คือ ถูกหักเปอร์เซ็นต์เยอะด้วยเวลาเอาไปคืน ตรงนี้ขำไม่ออกเลยจริงๆ ครับ กับพระบางองค์ แถมบางท่านยังไม่ยอมรับเช่าคืนด้วยจร้า

หรือบางท่าน อาจจะกำหนด และเพิ่มกฎเกณฑ์อีกนิด คือ ต้องส่งออกบัตร หรือไปออกบัตรกับทางสมาคมฯ ที่วงการรับรองฯ และเราเองจะไปตัดสินเองไม่ได้เลย

มันก็เหนื่อยเหมือนกัน ไหนจะซื้อแพง แต่พอมาเริ่มรู้ หรืออยากจะขายต่อแล้ว มาถูกติ ถูกว่า ว่าพระของเราที่เช่ามานั้นไม่แท้ และไม่สากล แถมถ้าจะให้ชัวร์ๆ คือ เราต้องไปออกบัตร (เราในฐานะผู้ซื้อเลยกลายเปลี่ยนเป็นผู้ขายแทน) เพื่อนำบัตร หรือการตรวจสอบมาช่วยเหลือ และช่วยการันตีให้เราอีกแรงว่า พระของเรานั้นแท้ และได้รับการออกบัตรรับรองฯ เช่นกันจร้า

ในขณะที่เราเองจะไปสวดเซียนพระที่เราเช่าหามาว่า ท่านให้เช่าพระปลอมท่านก็ไม่ยอม ยั๊วะ โมโห โกรธเราที่เราอาจจะทำให้เค้าเสียชื่อเสียงได้อีกต่างหาก และยืนกรานว่าท่านขายพระแท้ให้เรา เฮ้อ เหนื่อยสุดๆ

เราเองกลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออกเลยจร้า : แถมเอาพระองค์ดังกล่าวไปขายเองก็ขายไม่ได้ เพราะไม่มีใครรับเช่า หรือซื้อต่อ เพราะตีว่า เป็นพระปลอม และไม่แท้ และไม่สากลน้าจร้า!

สุดท้าย การออกบัตรฯ จึงเป็นเรื่องที่ช่วยการันตีได้ว่า พระองค์ที่เราเช่านั้นเป็นอย่างใดบ้าง แต่ก็ต้องเป็นบัตรของทางสมาคมพระเครื่องฯ ที่วงการให้การยอมรับด้วยนะครับ สรุปแล้ว เราต้องวิ่งหาตัวช่วยดีที่สุด นั่นก็คือ การออกบัตรฯ เพื่อช่วยยืนยันอีกที เสียเงินค่าออกบัตรเพิ่มเองอีก เฮ้อ

ตอนเช่า เราก็เช่าง่ายๆ แต่ตอนจะขายซื้อนั้น อาจจะติดหลากหลายปัจจัยจริงๆ จึงระบุได้ว่า มันไม่หมู และไม่สนุกเลยจริงๆ คืนได้ก็โชคดี คืนไม่ได้ก็โชคไม่ดี เหมือนกับพระที่ผมเช่ามายังคืนไม่ได้เลยนะจร้า เฮ้อ

เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืม เจ็บซ้ำกว่าใคร เจ็บปวดหัวใจจริงๆ :

สรุปแล้ว เจ็บและเข้าเนื้อสุดๆ เลย โดยเฉพาะกว่าจะรู้ว่าเงินทองนั้นหายากก็เข้าสู่ยุคมืดของตัวเรา และคิดว่า พระเครื่องที่เราเคยเช่าหานั้น พอจะช่วยประทังชีวิตเราได้ในยามตกต่ำ และยามยาก สุดท้าย ไม่เหมือนทองคำ และขายคืนไม่ได้ง่ายๆ เลยนะจร้ากับพระเครื่องบางองค์ที่เราเคยเช่าหามาในอดีตน้าจร้า (ส่วนใหญ่เจอแต่ของปลอมเพียบเลยน้าจร้า น่ากลัวสุดๆ เลยน้าจร้า)

สุดท้ายนี้ จึงอยากเห็นการปฎิรูป และมีมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคเหมือนกับการซื้อได้ทองคำปลอมเช่นกันนะจร้า แต่พระเครื่องกับทองคำเอาเข้าจริงๆ ก็แตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่ที่ความชอบ ความพึงพอใจซึ่งกันและกัน สภาพ ความสวย และที่สำคัญ ต้องแท้ทุกสนามด้วยนะจร้า ถ้าไม่แท้ทุกสนาม เช่น กลุ่มนี้เล่นแบบนี้ อีกกลุ่มไม่เล่นแบบนี้ เราในฐานะผู้บริโภคก็ลำบาก

และการถูกโยนกลับมาว่า ในฐานะผู้เล่น ผู้สะสมพระ ก่อนเราจะเล่นพระ เราต้องศึกษาพระเครื่องรุ่นนั้นๆ ให้ดี โดยส่วนตัวก็ทำการศึกษาในระดับหนึ่ง และยินยอมจ่ายแพงหน่อย เพราะยืมและซื้อประสบการณ์ของเซียนพระท่านนั้นๆ ชื่อเสียงของเซียนพระท่านนั้นๆ คุณภาพของเซียนพระ และพระที่ท่านได้นำออกมาแบ่งปัน เมื่อพิจารณาภาพรวมทุกๆ ปัจจัยแล้ว จึงกล้าเช่าแพงขึ้นกับเซียนพระท่านนั้นๆ อีกหลากหลายท่าน โดยเฉพาะอย่างตัวผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า เซียนพระที่เราดีลด้วยแต่ละท่านนั้นจริงๆ แล้วเป็นอย่างใดบ้างนะจร้า

แต่เราก็มั่นใจในวิถีของเซียน ชื่อเสียง และประสบการณ์ต่างๆ ของเซียนท่านที่เรากำลังดีลอยู่ด้วยว่าท่านอยู่ในแวดวงยุทธจักรนี้มาสักพักแล้วน้าจร้า มีชื่อเสียงเป็นเครื่องการันตีว่า เป็นใคร รู้จักกับใคร เก่งด้านใด พูดคุยแล้วดูน่าเชื่อถือ และน่าไว้ใจน้าจร้า

สรุปแล้ว กว่าเราจะรู้นิสัยของเซียนท่านนั้นๆ จริงๆ ก็ตอนที่เราเกิดปัญหาแล้วน้าจร้า :

มาถึงตรงนี้ บทเรียนชีวิตที่สอนเราได้ดีที่สุด คือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจริงๆ ในตอนสุดท้ายของเรื่องราวที่ได้พบเจอมา เฮ้อ เศร้า! ไม่มีใครช่วยคุณได้นอกจากตัวคุณเอง ตัวคุณจึงเป็นที่พึงของตัวคุณเอง เฮ้อ

นึกๆ ถึงทีไรก็เศร้า เพราะถ้าพระเครื่องที่เรามีตอนนี้ เป็นทองคำ ก็คงจะดี เราคงสามารถนำไปขาย และแลกเป็นเงินได้ง่ายกว่าในทุกๆ ที่ที่เค้ารับซื้อทอง เพราะเป็นทองคำแท้ 96.5 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกันหมดน้าจร้า เฮ้อ แต่พอเป็นพระไม่ได้มาตรฐาน พระไม่แท้ พระไม่สากล และที่สำคัญ พระไม่แท้ทุกกลุ่มของนักเล่นนักสะสมพระเครื่องก็จะลำบากหน่อยน้าจร้า อิอิ