คิดถึงคุณตา : (ภาค 16)

จะว่าไปแล้วภายในบริเวณบ้านไม้ของคุณตาในสมัยนั้น มีมุมโปรดที่ผมประทับใจหลากหลายมุมเลยทีเดียว รวมถึงมุมในบริเวณข้างบ้านที่อยู่ถัดจากห้องนั่งเล่น (อยู่ไม่ไกลจากทางโรงชันมากนัก) โดยจะมีประตูไม้สังกะสีที่ปิดในช่วงเย็นๆ โดยจะเปิดออกในช่วงเช้าเพื่อเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในมุมสวนเล็กๆ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีต้นไม้ขึ้นหลากหลายประเภทเช่นกัน ทั้งไม้ยืนต้น และไม้เลื้อย โดยเฉพาะต้นแตงชนิดต่างๆ ที่เลื้อยไปมาปกคลุมไปเกือบครึ่งหนึ่งของบริเวณพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงเรายังได้เห็นแมลงน้อยใหญ่บินผ่านหน้าเราไปมาในแต่ละวัน และที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คือแมลงเต่าทอง ซึ่งผมรู้สึกได้ถึงความสวยของช่วงปีกโดยเฉพาะเวลาบินผ่านแล้วรู้สึกประทับใจเป็นที่สุด

อีกทั้งยังมีไฮไลท์ที่สำคัญอีก 1 อย่าง นั่นก็คือบ่อน้ำขุดเล็กๆ 1 บ่อ (เป็นบ่อดิน) ซึ่งภายในบ่อจะมีน้องปลาตัวเล็กๆ ว่ายน้ำสลับกันไปมาระหว่างปลาหางนกยูง ปลาสอดแดง และปลาสอดดำ รวมถึงบางวันเราจะได้เห็นลูกอ๊อดของกบว่ายน้ำเล่นอยู่ภายในบ่อดังกล่าวเช่นกัน เป็นความแปลกตาและตื่นเต้นมากเมื่อนั่งเฝ้า ยืนเฝ้า และหมั่นวิ่งและเดินออกมาดูในสไตล์เด็กซนที่อยากรู้อยากเห็นในแต่ละวันว่าน้องๆ ลูกอ๊อดเหล่านี้จะเติบโต และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดในแต่ละวันก่อนจะกลายเป็นลูกกบเล็กๆ และค่อยๆ กระโดดออกไปจากบ่อทีละตัวสองตัว

นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข สนุก และเพลิดเพลินในบรรยากาศธรรมชาติเล็กๆ ในวัยซนที่ไม่ต้องรับผิดชอบในเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นเรื่องเรียน (แอบเกเรตั้งแต่เด็ก) รับประทาน และวิ่งเล่นพร้อมกับขอเงินคุณตา คุณพ่อ คุณแม่ คุณน้าๆ เพื่อมาซื้อขนมรับประทานในแต่ละวันเพียงเท่านี้เอง

ขณะที่บรรยากาศในบริเวณแถวๆ บ้านของคุณตา และบ้านของตัวเองในตอนนั้นช่างเต็มไปด้วยความอร่อยของอาหารและขนมนมเนยที่มีให้เลือกซื้อหามากมาย เรียกได้ว่าพาเพลินในแต่ละวันเลยครับ ในความจำที่เลือนรางไปบ้างของเด็กน้อยวัยซน เรายังติดใจในรสชาติของขนมจุ๊ยก๊วยของอาแปะท่านหนึ่ง ซึ่งท่านจะหาบมาขายในแต่ละวัน โดยรสชาติจุ๊ยก๊วยของอาแปะท่านนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน โดยเฉพาะแป้งขาวๆ ในรูปถ้วยน้ำเล็กๆ ที่อุ่นๆ ร้อนนิดๆ และราดหน้าด้วยหัวไชโป๊ผัดผสมกับกระเทียมเจียวอุ่นในกระทะทองเหลือง (ถ้าจำไม่ผิด) ตลอดเวลา ช่างเข้ารสชาติเป็นอย่างดี แถมเหยาะด้วยซอสซีอิ๊วดำหวานๆ เค็มๆ ช่างเป็นอะไรที่ลงตัวเสียจริงๆ เสิร์ฟพร้อมในกระทงใบตองแห้ง (หรือถ้วยใบตองแห้ง) ช่างอร่อยลงตัวจริงๆ ครับ

หรือจะเป็นอาโกวอีกท่านหนึ่งที่เข็นขนมกุยช่าย หรือกุยไช่ก้วย ใส่รถเข็นมาขายในแต่ละวันช่างอร่อยเหลือเกิน โดยส่วนตัวจำได้ว่าซื้อกินเป็นประจำ และติดใจในขนมกุยช่ายไส้กุยช่ายเขียว รวมถึงขนมกุยช่ายไส้เผือก และเผือกก้อนนึ่งของอาโกวท่านนี้ช่างอร่อยจริงๆ ครับ รสชาติยังคงอบอวลอยู่ในความรู้สึกเลยครับผม

อีกร้านที่ยังจำความอร่อยได้ คือ ร้านขายทอดมันอยู่ด้านหลังศาลเจ้าพ่อเสือ บริเวณชุมชมชาวตลาดสมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าพ่อกวนอู บริเวณชุมชมชาวตลาดสมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน และอาแปะท่านนี้จะนั่งปิ้งและหั่นใส่จานให้ตามจำนวนที่เราสั่ง เช่น สั่ง 5 บาท หรือ 10 บาท เป็นต้น รับประทานพร้อมกับน้ำราดและเครื่องเคียง พูดได้ 2 คำว่าอร่อยอร่อย และละมุนลิ้นเป็นที่สุดเลยครับผม

ตบท้ายด้วยช่วงค่ำๆ ถึงมืดๆ หน่อยกับบรรยากาศการปั่นจักรยานของคุณลุงอีกท่านหนึ่งที่มาพร้อมกับเสียงกระดิ่งจักรยานและขนมจีบนึ่งใส่ภาชนะซึ้งนึ่งอุ่นๆ ร้อนๆ มาจำหน่ายแล้วจ้า เป็นช่วงเวลาที่กำลังหิวพอดีเลยครับ อีกทั้งจะว่าไปแล้วขนมจีบของคุณลุงในความรู้สึกและความทรงจำนั้นพูดได้ 3 คำครับ คือ อร่อยอร่อยอร่อยครับ ผมยังพอจำความรู้สึกเวลารับประทานขนมจีบของคุณลุงได้ครับมาพร้อมกระทงใบต้องแห้ง ใส่กระเทียมเจียวพร้อมกับเหยาะซอสสักหน่อย อร่อยสุดๆ เลยครับผม หรือถ้าจะสั่งซาลาเปาก็มีจำหน่ายเช่นกันครับผม ถึงเวลาอิ่มๆ อบอุ่นละมุนลิ้นก่อนนอนทำให้รู้สึกนอนหลับสบายในวันนั้นเลยครับผม

ขณะที่ในบริเวณแถวๆ สี่แยกใกล้ๆ กับร้านขายของของ “อาเหล่าโกวใส” (ตอนนี้ปรับมาเปิดเป็นร้านมินิมาร์ทแล้วครับผม) นั้นมีร้านขายอาหารอร่อยมากมาย และมีให้เลือกอย่างหลากหลายจนอิ่มเอมในแต่ละวันเลยทีเดียว โดยมีเมนูให้เลือกรับประทานไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน ขึ้นอยู่ที่ว่าเราอยากจะรับประทานอาหารอะไรเป็นหลัก หรือถ้าจะเดินออกไปด้านนอกๆ หน่อยแถววงเวียนเล็ก หรือตลาดมืด (ตลาดพญาไม้) และบริเวณใกล้เคียงตลาดมืด ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีร้านอาหารและมีร้านขนมแต่ละประเภทให้เลือกซื้อหาเป็นจำนวนมากเลยทีเดียวครับ นับเป็นช่วงวันเวลาที่ย้อนคิดถึงทุกครั้งแล้วได้แต่อมยิ้มและบอกว่าสุดยอดครับผม