โรงกลั่นบางจากผู้นำ Green Energy ชูยุทธศาสตร์ "กรีน อินดัสทรี" (B1281 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 21-27 ส.ค. 2560)

โรงกลั่นบางจากผู้นำ Green Energy ชูยุทธศาสตร์ "กรีน อินดัสทรี"

B1281 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 21-27 ส.ค. 2560

B1281

สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1281 ประจำวันที่ 21-27 ส.ค. 2560

โรงกลั่นบางจากผู้นำ Green Energy ชูยุทธศาสตร์ "กรีน อินดัสทรี"

"บอสบางจาก" พงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการโรงกลั่นและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ ให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

"ตลอดจนมีการพัฒนากระบวนการผลิต และการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องด้วยยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมสีเขียวของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมีการประกอบการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทบางจากฯ ที่ยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ คือ การพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่กับการให้ความสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในทุกด้านเพื่อดูแล และป้องกันผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อสังคมและชุมชนในทุกๆ มิติ ทั้ง อากาศ ดิน น้ำ และของเสีย" "บิ๊กพงษ์ชัย" ย้ำ

ประธานฯ และรองเอ็มฯ บางจากฯ กล่าวต่อว่าบริษัทบางจากฯ ได้กำหนดมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในโรงกลั่นพร้อมนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาบริหารจัดการให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ "กรีน อินดัสทรี" ของประเทศไทยที่มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

"เราเป็นโรงกลั่นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียวสูงสุดในระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) จากการขยายเครือข่าย สนับสนุนให้คู่ค้า และพันธมิตรเข้าสู่กระบวนการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Green Supply Chain) รวมทั้งสร้างกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมกับชุมชนและผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมไทยอย่างยั่งยืน" "บิ๊กบอส" โรงกลั่นบางจากฯ ระบุ

สำหรับมาตรการต่างๆ ที่ทางโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องนั้น "รองฯ พงษ์ชัย" ระบุว่าได้แก่ มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของโรงกลั่นน้ำมันบางจากด้านการบริหารจัดการควบคุม และป้องกันการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดิน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนครอบคลุมตั้งแต่มาตรฐานการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันดิบ และถังเก็บผลิตภัณฑ์ที่มีการตรวจสอบคุณภาพถังน้ำมัน และอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอตามมาตรฐานสากลทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ขณะที่ในส่วนของเทคโนโลยีและมาตรการด้านการควบคุมป้องกันต่างๆ นั้นถังทุกใบในโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ จะถูกควบคุมระดับน้ำมันภายในโดยระบบอัตโนมัติให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมทั้งมีระบบการป้องกันการล้นถัง (Overflow Alarm System) หากพบความผิดปกติระบบ Alarm จะส่งสัญญาณไปยังห้องควบคุม เพื่อแจ้งสถานะปริมาณของเหลวในถังก่อนที่น้ำมันจะล้นถัง ทำให้สามารถยับยั้งและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากนั้น "บิ๊กบอส" พงษ์ชัย ยังกล่าวเสริมว่าโรงกลั่นบางจากฯ ได้บริหารความเสี่ยงโดยการสร้างกำแพงคอนกรีตล้อมถังโดยรอบ (Dike) รองรับในกรณีที่เกิดการไหลล้น พร้อมปรับพื้นภายในกำแพงถังน้ำมันให้เป็นคอนกรีตเพื่อป้องกันการปนเปื้อนลงดินและน้ำใต้ดิน ขณะที่ มาตรการป้องกันการปนเปื้อนในดิน และน้ำใต้ดินในช่วงฤดูฝนนั้นมีการกักเก็บปริมาณน้ำฝนไว้ภายในกำแพงคอนกรีตของถังน้ำมัน เพื่อตรวจสอบคุณภาพก่อนการระบายออก ทั้งนี้ ระบบการควบคุมพื้นที่ชั้นในของกระบวนการผลิตจะเป็นระบบปิดทั้งหมด ซึ่งของเหลวทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ในอุปกรณ์และจะไม่มีการรั่วไหลออกมาภายนอก อีกทั้งมีการตรวจสอบระบบท่อทางต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลา

"ส่วนมาตรการติดตามตรวจสอบ และเฝ้าระวังการปนเปื้อนที่บ่อเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดิน หรือที่เรียกว่าบ่อสังเกตุการณ์น้ำใต้ดิน (Monitoring Well) และจุดเฝ้าระวังการปนเปื้อนในโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน ทำให้ได้บ่อที่มีคุณภาพ มีอายุการใช้งานยืนยาว และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม" "บิ๊กโรงกลั่นฯ" กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด