"บิ๊กโป่ง" ชี้ยอดผลิตรถส่งออกแผ่ว แต่ขายในประเทศฉลุย 8 แสนคัน (B1272 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 19-25 มิ.ย. 2560)

"บิ๊กโป่ง" ชี้ยอดผลิตรถส่งออกแผ่ว แต่ขายในประเทศฉลุย 8 แสนคัน 

B1272 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 19-25 มิ.ย. 2560

B1272

สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1272 ประจำวันที่ 19-25 มิ.ย. 2560

"บิ๊กโป่ง" ชี้ยอดผลิตรถส่งออกแผ่วแต่ขายในประเทศฉลุย 8 แสนคัน

"บิ๊กโป่ง" สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงเป้าการผลิตรถใหม่สำหรับปี 2560 นี้ว่าอยู่ที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1.2 ล้านคัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน

"ยอดการผลิตเพื่อส่งออก 1.2 ล้านคันนั้น เมื่อเทียบกับปีก่อนเราส่งออกได้ 1.188 ล้านคัน โดยมีการตั้งเป้าทีแรกไว้ที่ 1.22 ล้านคัน ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นดูว่ามีโอกาสจะทำได้ถึงเป้า เพราะตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาของปีก่อนเราส่งออกได้ 1 ล้านคัน และมาเริ่มย่อลงในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559 ทำให้ยอดรวมการส่งออกทำได้ไม่ถึงเป้าอยู่ที่ 1.188 ล้านคัน" "บิ๊กสุรพงษ์" ย้ำ และกล่าวเสริมว่าจากเดิมที่มีการตั้งเป้ายอดการผลิตเพื่อส่งออกสำหรับปีนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านคัน แต่ที่ผ่านมา 4 เดือนทำได้กว่า 3.5 แสนคัน เมื่อเทียบกับปีก่อนถือว่าปรับลดลงประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้มองว่ายอดการผลิตเพื่อส่งออกปีนี้อาจจะทำได้ไม่ถึงเป้า

สาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดส่งออกรถยนต์อาจจะทำได้ไม่ถึงเป้านั้น รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตฯ ยานยนต์ ส.อ.ท. ระบุว่าส่วนหนึ่งเกิดจากตลาดส่งออกไปในตะวันออกกลางมีตัวเลขการส่งออกที่ติดลบ และมีการติดลบมาแล้ว 2 ปี ตั้งแต่เรื่องความไม่สงบต่างๆ ทำให้ยอดสั่งซื้อปรับลดลง รวมถึงเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างปีก่อนที่ปรับลดลงจาก 100 เหรียญ เหลือประมาณต่ำกว่า 40 เหรียญ ทำให้ขาดอำนาจซื้อ และที่สำคัญ ทางประเทศซาอุดิอาระเบียมีการตั้งกฎเกณฑ์ในการที่จะวัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของรถแต่ละยี่ห้อ ซึ่งถ้าเกินกว่าที่กำหนดจะไม่ให้นำเข้า

"ปกติเราส่งออกปิกอัพ เครื่องยนต์ดีเซลไปในประเทศต่างๆ เหล่านี้ ดังนั้น ถ้าเราส่งไปแล้วจะต้องเกินแน่ๆ ส่งผลทำให้ยอดการส่งออกรถไปในบริเวณประเทศเหล่านั้นปรับลดลง จากเมื่อก่อนมีสัดส่วนการส่งออกกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของยอดส่งออกกว่า 1 ล้านคัน มาในช่วงที่ผ่านมา 4 เดือน เหลือแค่ 8 เปอร์เซ็นต์ หายไปเป็นจำนวนมาก หรือร่วม 2 แสนกว่าคัน เมื่อเทียบกับในอดีตที่เราส่งออกไปเกือบ 3 แสนคัน ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นความวิตกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้อาจจะทำไม่ได้ตามเป้า 1.2 ล้านคัน" "โฆษกฯ สุรพงษ์" ย้ำ

สำหรับตลาดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยนั้น "ท่านสุรพงษ์" เผยว่ามีการตั้งเป้าการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน โตกว่าปีก่อนเพราะปีก่อนขายได้ 768,000 คัน ตอนแรกคิดว่าจะจำหน่ายได้ 7.2 แสนคัน แต่สรุปสามารถจำหน่ายได้ทั้งหมด 768,000 คัน เกินความคาดหมาย โดยเมื่อช่วงต้นปี 2559 ที่ผ่านมามีการมองกันที่ตัวเลข 7.5 แสนคัน ขึ้นมาถึง 768,000 คัน

"บิ๊กโป่ง" สุรพงษ์ กล่าวถึงสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายรถปีก่อนเพิ่มขึ้นกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้ว่าเป็นผลมาจากเรื่องของราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้น ยอดขายรถกระบะและรถพีพีวีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่อช่วงกลางปี 2558 นั้นค่ายรถยนต์มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด และมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อหาเป็นจำนวนมาก เพราะมีการใส่อุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาไม่ได้ขึ้นมากเหมือนกับภาษีที่มีการปรับเกี่ยวกับเรื่องของการปล่อยค่าไอเสีย ส่งผลทำให้ราคารถใหม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่สูงมากนัก จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น

"ส่วนยอดขายปีนี้ที่ 8 แสนคันนั้นน่าจะทำได้ เพราะดูจากตัวเลข 4 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นการเติบโตเกินกว่าที่คาดหมาย และเรากำลังเฝ้าติดตามดูตัวเลข เนื่องจากปลายเดือนมกราคม 2560 นั้นคงจำกันได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรถยนต์นั่งหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติแล้วเดือนเมษายนจะมียอดจำหน่ายไม่มากเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ เนื่องจากมีวันหยุดเป็นจำนวนมาก แต่ปีนี้ยอดขายในเดือนเมษายนนั้นสามารถจำหน่ายได้เป็นอย่างดี รวมถึงได้ยอดจองจากในงานมอเตอร์โชว์ที่มีสูงถึงกว่า 3 หมื่นคัน ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่ถ้าพิจารณารวมถึงปัจจัยบวกด้านอื่นๆ ที่มีอีกมากมายจึงเป็นไปได้ที่ปีนี้จะทำได้กว่า 8 แสนคันในที่สุด" "รองประธานฯ สุรพงษ์" ระบุทิ้งท้าย