อิมแพ็ค พร้อมก้าวสู่อุตสาหกรรมไมซ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

อิมแพ็ค พร้อมก้าวสู่อุตสาหกรรมไมซ์ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Khun Paul

ขานรับโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน อิมแพ็ค เดินหน้าลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 3% ต่อปี จากที่มีค่าใช้จ่ายต้นทุนพลังงานปีละกว่า 200 ล้านบาท โดยเตรียมหารือผู้ถือหน่วยลงทุน อิมแพ็ค โกรท รีท พิจารณาลงมติสร้างแผงติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซล่าร์รูฟท็อป) ควบคู่กับนโยบายประหยัดพลังงานภายในองค์กรที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากล ISO 50001 อีกทั้งสนับสนุนโครงการสั่งซื้อวัตถุดิบข้าวเกษตรอินทรีย์ใช้ในงานจัดเลี้ยง เพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมส่งเสริมชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยถึงต้นทุนที่บริษัทรับภาระมากที่สุดในปัจจุบัน คือ ต้นทุนด้านพลังงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายปีละกว่า 200 ล้านบาท จึงได้ตั้งมาตรการลดต้นทุนด้านพลังงาน ภายใต้การดำเนินงานตามมาตรฐานระบบการจัดการด้านพลังงาน หรือ ISO 50001 ซึ่งที่ผ่านมาได้กำหนดนโยบายการประหยัดพลังงานขององค์กร โดยมีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวกับการจัดการพลังงาน การลดต้นทุนพลังงาน ลดการเกิดภาวะเรือนกระจก และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้องค์กรมีความยั่งยืนทางด้านพลังงานและสามารถให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

อิมแพ็ค ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการลดใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นพลังงานหลักที่ใช้มากที่สุดถึง 90% เมื่อเทียบกับพลังงานด้านอื่น อาทิ พลังงานน้ำและน้ำมัน และเมื่อคิดสัดส่วนค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าใน 4 อาคารหลัก ได้แก่ อาคารอารีน่า, อาคารแสดงสินค้า, อาคารศูนย์การประชุม, อาคารชาเลนเจอร์ อยู่ที่ราว 190 ล้านบาทต่อปี และจากการตรวจสอบสถิติค่าพลังงานไฟฟ้าสูงสุดมาจากระบบปรับอากาศ 80% รองลงมาคือระบบแสงสว่าง 20% ทั้งนี้ เบื้องต้นอิมแพ็คจึงกำหนดนโยบายตั้งเป้าจะลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 3% ต่อปีหรือประมาณ 6-8 ล้านบาท

โดยกำหนดมาตรการและวางแผนลงทุนดำเนินการเปลี่ยนและติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน อาทิ การเปลี่ยนระบบทำความเย็น filler Cooling Tower การเปลี่ยนหลอดไฟส่องสว่าง LED การติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายความร้อนในอาคาร รวมถึงรณรงค์ขอความร่วมมือพนักงานช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า ส่งผลทำให้เดือนมกราคม-ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา อิมแพ็ค สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าได้ตามเป้าอยู่ที่ 7,474,228.72 บาท ต่อยอดความสำเร็จบริษัทได้เตรียมการลงทุนเกี่ยวกับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) เพื่อนำมาใช้ในศูนย์ฯ ซึ่งจะนำเสนอเรื่องนี้ในการประชุมผู้ถือหน่วย อิมแพ็ค โกรท รีท เพื่อลงมติ ก่อนหารือถึงการลงทุนกับบริษัทผู้ชำนาญการจากประเทศสิงคโปร์ต่อไป

ด้านนางสาวเรืองศิริ โขมศิริ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้ออาหารและเครื่องดื่ม กล่าวเสริมว่า อิมแพ็ค ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืน (MICE Sustainability Thailand) ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. พร้อมให้ความร่วมมือในการสั่งซื้อข้าวเกษตรอินทรีย์โดยตรงจากกลุ่มเกษตรกร เพื่อนำมาให้บริการลูกค้ากลุ่มจัดเลี้ยง ร้านอาหาร ซึ่งต่อเดือนอิมแพ็คมีการสั่งซื้อข้าวอยู่ที่ราว 75-150 กระสอบหรือประมาณ 3.75-7 ตันต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณงาน) มูลค่ารวมประมาณ 1.95 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะยังดำเนินการต่อเนื่อง อิมแพ็ค เริ่มจากสั่งซื้อข้าวเกษตรอินทรีย์ ในอนาคตจะขยายไปยังผัก ผลไม้ วัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งทาง สสปน. จะเป็นผู้สำรวจและแจ้งข้อมูลแหล่งสินค้าเกษตรให้กับศูนย์ฯ และกลุ่มโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการได้เลือกซื้อ ทางอิมแพ็คพร้อมและยินดีสนับสนุนการสั่งซื้อสินค้าของเกษตรกรไทย ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้เกิดรายได้ รวมถึงให้ลูกค้าผู้ใช้บริการได้มีส่วนร่วมส่งเสริมชุมชน เกษตรกร ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน