ปตท. มอบรางวัลลดอุบัติเหตุจากการขนส่งและขับขี่ประหยัดพลังงาน

ปตท. มอบรางวัลลดอุบัติเหตุจากการขนส่งและขับขี่ประหยัดพลังงาน

KTevinPTT290860

ลดการใช้เชื้อเพลิง 2.5 ล้านลิตร/ปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศได้ 6,929 ตัน/ปี หรือ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 7.3 แสนต้น/ปี ด้วยการรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการขนส่งทางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างความตระหนักรู้ในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล PTT Group Logistics Zero Accident และรางวัล Eco-Driving ประจำปี 2560 ณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ โดยรางวัล PTT Group Logistics Zero Accident เป็นรางวัลที่มอบให้ผู้รับจ้างขนส่งและพนักงานขับรถขนส่ง ที่ปฏิบัติตามเกณฑ์ความปลอดภัยในการขนส่งผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. และรางวัล Eco-Driving เป็นรางวัลที่มอบให้ผู้รับจ้างขนส่งที่สามารถลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด

นายเทวินทร์ เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นที่จะลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด “ปตท. ปลอดภัยตลอดเส้นทาง” เพื่อย้ำเตือนให้ผู้ขับขี่คำนึงถึงความปลอดภัยตลอดการขับขี่ นอกจากนี้ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยได้กำหนดทิศทางและจัดทำแผนกลยุทธ์ระยะยาว หรือ PTT Group Zero Logistics Accident และ Eco-Driving Roadmap จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปัจจุบัน ที่เท่ากับ 0.07 ครั้ง / 1 ล้านกิโลเมตร หรือประมาณ 15 ล้านกิโลเมตรเกิดอุบัติเหตุเพียงหนึ่งครั้ง โดยกลุ่ม ปตท. มีเป้าหมายโครงการฯ ในการลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งทางรถยนต์ขั้นร้ายแรงให้เท่ากับ 0 ครั้ง / 1 ล้านกิโลเมตร ภายในปี 2564

PTT020660

สำหรับโครงการลดการใช้เชื้อเพลิงของผู้รับจ้างขนส่งทางรถ หรือ Fuel Saving Program ได้ริเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งการประเมินผลการลดการใช้พลังงานจะประเมินจากอัตราการใช้พลังงานเชื้อเพลิงหลังเข้าร่วมโครงการฯ เปรียบเทียบกับอัตราการใช้พลังงานเชื้อเพลิงก่อนเข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงเท่ากับ 15% ภายในปี 2561

ด้วยความมุ่งมั่นของกลุ่ม ปตท. ในการบริหารจัดการความปลอดภัยสำหรับการขนส่งทางรถยนต์ เพื่อลดอุบัติเหตุร้ายแรงให้เป็นศูนย์ และการรณรงค์ลดการใช้เชื้อเพลิงของผู้รับจ้างขนส่งทางรถ โดยคำนึงถึงชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการขนส่งจนถึงการส่งมอบสินค้า เพื่อทำให้ทุกภาคส่วนสามารถอยู่ร่วมกันภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีได้อย่างยั่งยืน” นายเทวินทร์ กล่าวในตอนท้าย