ธนาสิริ บุกตลาดอสังหาฯ ปีนี้เปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 2,275 ล้านบาท เตรียมระบบบริหารโครงการแบบมืออาชีพพร้อมรับพ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เปิดทางแลนด์ลอร์ดร่วมทุนนำที่ดินออกมาพัฒนา

ธนาสิริ บุกตลาดอสังหาฯ ปีนี้เปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 2,275 ล้านบาท

เตรียมระบบบริหารโครงการแบบมืออาชีพพร้อมรับพ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

เปิดทางแลนด์ลอร์ดร่วมทุนนำที่ดินออกมาพัฒนา

Thana170859

ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA หุ้นจิ๋วแต่แจ๋วในตลาดเอ็มเอไอ เจ้าตลาดอสังหาฯ ในเมืองนนท์ พร้อมบุกปีนี้เปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการมูลค่ากว่า 2,275 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกกว่า 15% อีกทั้งยังพัฒนาทีมงานคุณภาพและระบบบริหารโครงการแบบมืออาชีพ เพื่อเปิดรับผู้ร่วมทุน

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้ชื่อ THANA เปิดเผยว่าบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยบริษัทจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเป็นเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนาโครงการในเขตปริมณฑล โดยเน้นทำเลย่านจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ

Thana240859

ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 26 โครงการ จำนวน 2,649 ยูนิต มูลค่า 10,209 ล้านบาท (รวม 2 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 4/59) ซึ่งเป็นโครงการในจังหวัดนนทบุรี 19 โครงการ จำนวน 2,249 ยูนิต มูลค่า 8,699 ล้านบาท ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 5 โครงการ 209 ยูนิต มูลค่า 729 ล้านบาท และในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 2 โครงการ รวม 191 ยูนิต มูลค่า 781 ล้านบาท

โดยในครึ่งแรกของปี 2559 บริษัทฯ มียอดขาย 376 ล้านบาท มีรายได้สุทธิ 341 ล้านบาท และมียอดรอโอนอยู่ที่ 146 ล้านบาท โดยมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขายทั้งหมด 7 โครงการ (6 โครงการที่นนทบุรี และ 1 โครงการที่อุดรธานี) ขายไปแล้วกว่า 40% คงเหลือรอขาย รวมทั้งสิ้น 2,092 ล้านบาท

ในส่วนของแผนการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทยังคงเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเป็นหลัก เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีแผนงานการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อย่างต่อเนื่องจากภาครัฐทั้งระบบการขนส่งมวลชนเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 4 โครงการ โดยในครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ ที่โซน จ.นนทบุรี และ จ.อุดรธานี ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลัง มีแผนเปิดโครงการอีก 2 โครงการ ที่โซน จ.นนทบุรี 2 โครงการ มูลค่ารวมทั้ง 4 โครงการ ประมาณ 2,275 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดของแต่ละโครงการ ดังนี้

1. โครงการ สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต มูลค่าโครงการ 706 ล้านบาท จำนวน 179 ยูนิต พื้นที่ 39 ไร่ สินค้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 3.9 ล้านบาท/ยูนิต เปิดขายไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ 2559

2. โครงการ ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์-สถานีบางพลู มูลค่าโครงการ 334 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต พื้นที่ 8 ไร่ สินค้า ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 4.3 ล้านบาท/ยูนิต ได้ทำการเปิดขายไปเมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2559 ที่ผ่านมา

3. โครงการ ธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ มูลค่าโครงการ 357 ล้านบาท จำนวน 77 ยูนิต พื้นที่ 10 ไร่ สินค้า ทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝด 3 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 4.9 ล้านบาท/ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 4/59

4. โครงการ ธนาฮาบิแทต 2 ราชพฤกษ์-สิรินธร มูลค่าโครงการ 860 ล้านบาท จำนวน 95 ยูนิต พื้นที่ 26 ไร่ สินค้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคาขายเฉลี่ย 9.1 ล้านบาท/ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 4/59

Thana170859 2

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงการในอนาคต บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอยู่อีก 4 แปลง ได้แก่ ที่ดินริมถนนรัตนาธิเบศร์ (ด้านหน้าโครงการธนาสิริ - รัตนาธิเบศร์) ขนาด 2-0-87.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 18.5 ล้านบาท ราคาประเมิน 62.2 ล้านบาท,

ที่ดินเปล่า 4 ผืนในโครงการรัตนาธิเบศร์ (ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี) 0-3-94.6 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 8.4 ล้านบาท ราคาประเมิน 17.4 ล้านบาท,

ที่ดินเปล่าริมถนนซอยวัดไผ่เหลือง (ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี) 3-2-80.6 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 26.4 ล้านบาท (อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ประเมิน)

และที่ดินเปล่า กมลา (อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต) 104-2-76.9 ไร่ มูลค่าตามบัญชี 52.7 ล้านบาท ราคาประเมิน 764 ล้านบาท

ด้วยจุดแข็งด้านต่างๆ อาทิ ทีมงานที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากองค์กรมีขนาดไม่ใหญ่มาก ดังนั้น จึงมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงานค่อนข้างสูง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบทางด้านการบริหารและการจัดการรูปแบบบ้านที่แตกต่างจากคู่แข่ง และตรงตามความต้องการของลูกค้า มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง การให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของลูกค้า โดยทุกๆ โครงการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น โครงการทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว บริษัทนำพื้นที่ส่วนกลางดังกล่าวมาสร้างเป็นสระว่ายน้ำ สโมสร และฟิตเนส เพื่อให้เป็นจุดพักผ่อน และให้ลูกค้าได้ออกกำลังกาย ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งโครงการของคู่แข่งทั่วไปจะไม่เน้นการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางแต่จะนำพื้นที่มาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่า

ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทได้นำมาพัฒนาใช้ในการบริหารจัดการด้วยระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงกันระหว่างทุกโครงการ และสำนักงานใหญ่ ทั้งโปรแกรมบริหารข้อมูลโครงการ ซึ่งทีมผู้บริหารสามารถตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับการขายและสินค้าคงเหลือทั้งหมดได้ตลอดเวลา โปรแกรมบริหารงานขาย เพื่อให้ฝ่ายการตลาดสามารถวิเคราะห์ลักษณะความชื่นชอบและสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โปรแกรมระบบจัดการบริการงานหลังการขาย โปรแกรมบริหารงานจัดซื้อ ฯลฯ

“จากการที่บริษัทได้มีการปรับรูปแบบธุรกิจให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสามารถวัดผลได้ เพื่อกำหนดทิศทางในการทำงานให้ผู้บริหารและพนักงานทุกคน โดยการวางแผนการทำงาน ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ มีการตอบสนองต่อลูกค้าอย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมต้นทุนแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการเงินที่ได้กำหนดไว้ ด้วยศักยภาพ และความเป็นมืออาชีพ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี และจากการที่ พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2560 จะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีที่ดินอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก ทางบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เองก็มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีที่ดินรอการพัฒนาเหล่านี้ หรือนักลงทุนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทในรูปแบบต่างๆ” กรรมการผู้จัดการ กล่าวในที่สุด

เกี่ยวกับบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) :

บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยเน้นการพัฒนาโครงการในเขตปริมณฑลย่านจังหวัดนนทบุรี รวมถึงในส่วนภูมิภาคที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น โซนภาคอีสานและภาคใต้ เป็นต้น ในระดับราคาโดยเฉลี่ยประมาณ 3 – 5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “ธนาซิโอ” “ธนาวิลเลจ” “ธนาฮาบิแทต” “ธนาคลัสเตอร์” “ธนาเรสสิเดนท์” และ “สิริวิลเลจ” สาหรับโครงการในส่วนภูมิภาค โดยแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้วกว่า 26 โครงการ โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 10.2 พันล้านบาท โดยบริษัทมีบริษัทย่อย ทั้งสิ้น 3 บริษัท ประกอบธุรกิจ ดังนี้

1. บริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (“TPD”)

TPD ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนาโครงการในส่วนภูมิภาค ที่มีการเติบโตทาง เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการอยู่ในจังหวัดภูเก็ตและสกลนคร โดยบริษัทได้เข้าถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.6% เมื่อปี 2551 (TPD ก่อตั้งเมื่อปี 2533 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท) ทั้งนี้ ในการออกแบบก่อสร้างโครงการ บริษัทจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบโครงการ และรายละเอียดการออกแบบว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่อดำเนินงานก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้จัดหาวัสดุก่อสร้างหลักเองทั้งหมด แต่ในส่วนของฝ่ายขาย วิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้าง (Foreman) และฝ่ายจัดการจะดำเนินการโดยพนักงานของ TPD เอง

2. บริษัท ธนาสิริ แมเนจเม้นท์แอนด์คอนซัลติ้ง จํากัด (“TMC”)

TMC จัดตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท บริษัทถือหุ้น 99.9% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจด้านที่ปรึกษา ด้านบริหารจัดการ และขายซอฟท์แวร์ระบบการทำงานต่างๆ

3. บริษัท พิมานสิริ จํากัด (“PMS”)

PMS เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท โดยจัดตั้งเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยจะเป็นผู้พัฒนาโครงการและเป็นเจ้าของโครงการในภาคอีสาน เริ่มต้นที่ จ.อุดรธานี เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับ กลุ่มบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด และนายธัชกร แต้ศิริเวช (พันธมิตรของ บริษัทที่ จ.สกลนคร) โดยมีสัดส่วนร้อยละ 60.7%, 34.3% และ 5% ตามลำดับ