บางจากช่วยเกษตรกรไทย ปันน้ำใจให้ประชาชน (B1242 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 21-27 พ.ย. 2559)

บางจากช่วยเกษตรกรไทย ปันน้ำใจให้ประชาชน

B1242 สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา 21-27 พ.ย. 2559

B1242

สกู๊ปพิเศษ มิสเตอร์เฮา วรายุภัสร์ (ชื่อเดิม วีรพงษ์) อัสดรธีรยุทธ์ ฉบับ B1242 ประจำวันที่ 21-27 พ.ย. 2559

บางจากช่วยเกษตรกรไทยปันน้ำใจให้ประชาชน

"บางจากฯ ได้ร่วมสนับสนุนนโยบายรัฐบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากภาวะราคาข้าวตกต่ำโดยเร่งด่วน ด้วยการรับซื้อข้าวหอมมะลิเกรดดีจากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโดยตรงมาจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เบื้องต้นกว่า 100 แห่ง โดยบางจากฯ รับซื้อข้าวจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 32 - 35 บาท แต่นำมาจำหน่ายลดราคาให้ประชาชนเพียงกิโลกรัมละ 30 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 เป็นต้นไป" "บอสใหญ่" ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าว

"บิ๊กบอส" ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่าบริษัทฯ จะขยายพื้นที่จำหน่ายให้ครบทุกปั๊มในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และอีก 100 แห่ง ใน 10 จังหวัด ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในต่างจังหวัดนั้น "บอสชัยวัฒน์" ระบุว่าสามารถติดต่อนำข้าวมาจำหน่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในพื้นที่ได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเปิดให้สมาชิกบัตรบางจากสามารถใช้คะแนนสะสม 300 คะแนน (รวมค่าจัดส่งให้ถึงบ้าน) ต่อการแลกข้าวหอมมะลิ 1 กิโลกรัม สมาชิกบัตรบางจากที่สนใจร่วมช่วยเหลือเกษตรกรติดต่อผ่านCall Center ได้ที่โทร. 1651

"โครงการนี้จะช่วยให้เกษตรกรขายข้าวให้กับผู้บริโภคได้โดยตรงในราคาที่เหมาะสม ขณะที่ผู้บริโภคได้ข้าวคุณภาพดี ราคาไม่แพง จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยช่วยกันอุดหนุน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร" "บิ๊กบอส" ชัยวัฒน์ กล่าว และระบุเพิ่มเติมว่ากรณีข้าวที่รับซื้อมาจำหน่ายไม่หมด บริษัทฯ จะนำไปมอบให้โครงการอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนในชุมชนรอบโรงกลั่นบางจาก อีกทั้งยังเป็นไปตามที่บริษัทบางจากฯ มีนโยบายคัดสรรผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาสมนาคุณลูกค้า ซึ่งดำเนินการมาแล้วเกือบ 20 ปี โดยบริษัทฯ จะนำข้าวหอมมะลิกว่า 160 ตัน มาเป็นของสมนาคุณลูกค้าที่มาเติมน้ำมันบางจาก ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2559 เป็นต้น

นับว่าเป็นการช่วยแบ่งปันน้ำใจของค่ายบางจากฯ ที่มีต่อเกษตรกรไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าเกษตรกร หรือชาวนาเดือดร้อนหนักจากสถานการณ์ราคาข้าวที่ตกต่ำอย่างมาก ส่งผลให้หลากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐฯ และเอกชนมากมายต่างยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะอย่างน้อยๆ สามารถช่วยทำให้เกษตรกรคลายความเดือนร้อนกว่าที่เป็นอยู่ และมีช่องทางในการระบาย และกระจายสินค้าของตัวเองออกสู่กลุ่มผู้บริโภคได้แพร่หลายเพิ่มขึ้น นับว่าเป็นการวินวินทั้ง 2 ฝ่าย เพราะผู้ผลิตสามารถจำหน่ายข้าวได้ราคาดีขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคสามารถซื้อข้าวได้ในราคาที่ถูกลง และมีให้เลือกหลายหลายประเภทเพิ่มขึ้น 

อีกทั้งยุคนี้เป็นยุคที่ปั๊มน้ำมันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นปั๊มจำหน่ายปลีกน้ำมันแล้ว ยังมีสถานที่ทั้งมินิมาร์ท และคอมมูนิตี้มอลล์ย่อมๆ ให้ผู้ขับขี่ได้แวะเข้าไปใช้บริการเวลาขับขี่ไปในสถานที่ต่างๆ และที่ขาดไม่ได้เลยคือห้องสุขาที่สะอาด และคอยเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และประชาชนทั่วๆ ไป ดังนั้น ช่องทางในการช่วยกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคผ่านทางปั๊มน้ำมันจึงเป็นเงื่อนไขที่ดี และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยทำให้ผู้ผลิตสามารถพบกับผู้บริโภคได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทางค่ายบางจากช่วยซื้อข้าวของเกษตรกรไทย และมาจำหน่ายในปั๊มน้ำมันในราคาพิเศษ รวมถึงเปิดช่องทางให้เกษตรกรสามารถนำข้าวมาขายได้ฟรีในปั๊มน้ำมันนั้นนับว่าเป็นการเปิดโอกาส และช่วยเพิ่มช่องทางให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยได้ใช้ช่องทางดังกล่าวนี้ในการจำหน่ายสินค้าของตัวเองเพิ่มขึ้น ตามสโลแกนของบางจากที่ต้องการช่วยเกษตรกรไทยปันน้ำใจซึ่งกันและกัน