ลีดเวย์ฯ จับมือ ซูมิโตโม ญี่ปุ่นตอกย้ำความเป็นผู้นำ ขยายตลาดเครื่องจักรกลหนัก ยอดขายสิ้นปี 2558 ทะลุเกิน 500 คัน ปีหน้าคาดยอดกระฉูดเพิ่มขึ้น 6%

ลีดเวย์ฯ จับมือ ซูมิโตโม ญี่ปุ่นตอกย้ำความเป็นผู้นำ ขยายตลาดเครื่องจักรกลหนัก

ยอดขายสิ้นปี 2558 ทะลุเกิน 500 คัน ปีหน้าคาดยอดกระฉูดเพิ่มขึ้น 6%

Leadway 14

ลีดเวย์ฯ ควงบริษัทแม่ ซูมิโตโม คอนสตรัคชั่น แมชชีนเนอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศรุกตลาดเครื่องจักรกลหนักรถขุดไฮโดรเป้าสิ้นปี 58 ฉลองเกิน 500 คัน คาดปีหน้ายอดขายพุ่งเพิ่มขึ้น 6%

นายฉกาจ แสนจัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ ซูมิโตโม หนึ่งเดียวในประเทศไทย กล่าวถึงการทำตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศไทยว่า “ปัจจุบัน บริษัท ลีดเวย์ฯ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยย่างเข้าปีที่ 4 แล้ว โดยมีรถขุดซูมิโตโม ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถขุดขนาดเล็ก 8-20 ตัน รถขุดขนาดกลาง 20-40 ตัน และรถขุดขนาดใหญ่ 40-80 ตัน โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตทุกปี สำหรับรถ 2 รุ่น ที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รถขุด และรถปูยาง แยกตามน้ำหนักและกำลังการใช้งาน ทั้งนี้จุดแข็ง ของแบรนด์ซูมิโตโม ที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาจำหน่ายคือเทคโนโลยีระบบไฮโดรลิกที่มีสมรรถนะดี มีแรงขุด ขณะเดียวกันยังประหยัดน้ำมัน ต่างจากรถขุดคู่แข่ง ซึ่งถ้ามีแรงขุดดีก็จะสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย เพราะซูมิโตโม ได้ถูกพัฒนาเพื่อการ ใช้งานทีคุ้มค่า โดยมีการรับประกันการใช้งานสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 25,000 ชม. ในขณะเดียวกันฟรีค่าบำรุงรักษา 7,000 ชม. ทั้งค่าแรง ค่ารถและค่าอะไหล่”

ส่วนเป้าหมายในการขาย ลีดเวย์ฯ ตั้งเป้าในการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในสิ้นปี 2558 ที่ผ่านมา ลีดเวย์ฯ ฉลองยอดขายเกิน 500 คัน และในปี 2559 ทั้งลีดเวย์ และซูมิโตโมตั้งเป้ายอดขายรถขุดไฮโดรลิกไว้ที่ 250 คัน รถปูยาง 25 คัน กลยุทธ์ในการทำตลาดของบริษัทลีดเวย์ คุณฉกาจ กล่าวเสริมว่า “ในปีหน้าเราจะเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดให้มากขึ้นเพื่อตอบสนองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงโครงการก่อสร้างต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นบนพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สำหรับรถขุดของซูมิโตโม ทางภาคกลางถือว่ามียอดจำหน่ายสูงสุด คิดจากยอดขายรวมแล้วอยู่ที่ 42% เป็นแหล่งรวมรถขุดขนาด 35 ตัน และ 48 ตัน ส่วนทางภาคใต้นั้นจะอยู่ที่ 27% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20% ในปีหน้านี้ ลีดเวย์ฯ จะเจาะตลาดไปยังภาคเหนือมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง เพราะลีดเวย์ฯ เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพียงแค่ 4 ปี จึงใช้รูปแบบการขายแบบเซลส์และโบรกเกอร์ ซึ่งเป็นนายหน้าที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่นั้นๆ มาช่วยขาย เช่น ต่างจังหวัดและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะเดียวกัน ลีดเวย์ฯ จะติดตามโครงการภาครัฐในส่วนการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งเรื่องระบบชลประทาน การสร้างรถไฟฟ้า เหมืองแร่ ซึ่งมีส่วนผลักดันให้สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะรถขุดสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ลีดเวย์ฯ มองว่าเศรษฐกิจดีขึ้น อยู่ที่การพัฒนาพื้นฐานก่อน ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ต้องพัฒนา ขยาย และซ่อมแซม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการจัดการน้ำถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องทำแน่นอน”

ด้านแผนการลงทุนในอนาคต ลีดเวย์ฯ จะใช้งบประมาณ 50 ล้านบาทในการนำเข้ารถขุดพร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 4 สาขาเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและการดูแลบริการหลังการขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากเดิ่ม 6 สาขาที่ลำปาง ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และบางปะกง รวมทั้งจะมีการเพิ่มบุคลากรเพื่อขยายตลาดและให้ครอบคลุมการดูแลบริการหลังการขายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทลีดเวย์ฯ ได้วางแผนที่จะใช้กลยุทธ์การเข้าถึง เข้าใจ และใส่ใจ การเข้าถึงนั้นบริษัทฯ มีแผนการเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า บุคคลทั่วไป รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์สินค้า การขายและอธิบายข้อมูลตัวผลิตภัณฑ์โดยตรงไปยังบริษัทของลูกค้า รวมทั้งบริการหลังการขาย ส่วนการเข้าใจ ลีดเวย์ฯ มีแผนในการแนะนำรถขุดรุ่นใหม่ๆ ที่มีความเหมาะสมกับประเภทของธุรกิจ รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อยในการนำผลิตภัณฑ์ไปใช้งานของลูกค้าแต่ละประเภทให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะด้าน เช่น ธุรกิจเหมืองแร่ ธุรกิจป่าไม้ ธุรกิจสวนเกษตร และธุรกิจรีไซเคิล สุดท้ายคือการใส่ใจ ซึ่งบริษัทลีดเวย์ฯ มีแผนในการปรับการให้บริการด้านสินเชื่อ ให้มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับศักยภาพทางการเงินของลูกค้าแต่ละราย โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ

ไม่เพียงแต่ตลาดในประเทศเท่านั้นที่ลีดเวย์ฯ จะขยายการลงทุน แต่ลีดเวย์ฯ ให้ความสำคัญกับตลาดในต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มผลักดันตลาดที่พม่าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมามียอดขายในประเทศพม่า 120 คัน ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าไว้ที่ 150 คัน